ในยุคที่คนไทยมีการใช้งานสื่อผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าสื่อหลัก ทำให้ทิศทางในอนาคตมีผู้คนจะยอมเสียเงินเพื่อรับชมรายการที่ตัวเองชื่นชอบแบบเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ด้าน PwC บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำ ประเมินว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า มูลค่าธุรกิจสื่อและบันเทิงของไทย จะมีมูลค่าแตะ 6.5 แสนล้านบาท

ทางด้านของ PwC คาดการณ์การใช้จ่ายผ่านอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของไทยจะมีมูลค่า 6.43 แสนล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า เติบโตจาก 5.02 แสนล้านบาทเมื่อปี 2561 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 5.05%

โดยบริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต จะเป็นตลาดที่เห็นการเติบโตรวดเร็วที่สุด ตามด้วยโฆษณาออนไลน์ เว็บไซต์ ขาย สินค้า ออนไลน์ และวิดีโอเกมและอีสปอร์ต สวนทางกับมูลค่าการใช้จ่ายของสื่อดั้งเดิมที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

“การเข้ามาของเครือข่าย 5G ที่คาดว่า จะเริ่มเปิดให้ประมูลได้ในไม่ช้านี้ จะทำให้การเชื่อมต่อและตอบสนองทางออนไลน์รวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น ผู้ประกอบการสื่อและบันเทิง ยิ่งต้องเร่งเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่วันนี้ หันมาเลือกเสพสื่อในรูปแบบที่ตัวเองต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเสพสื่อไหน อย่างไร หรือเมื่อไหร่

ทั้งนี้ กระแสของการใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลของผู้บริโภคและธุรกิจไทยที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยังส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการในรูปแบบดั้งเดิม เช่น สำนักพิมพ์และโทรทัศน์ ต้องหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบของการให้บริการไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น แต่ก็มีผู้ประกอบการหลายรายที่ประสบกับความยากลำบากในประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด หรือแม้กระทั่งต้องล้มเลิกกิจการไปในที่สุด ตลาดบริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ตในไทยเติบโตแรงสุด

นอกจากนี้ รายงานของ PwC คาดการณ์ว่า บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต จะเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการบริโภควีดิทัศน์ตามคำขอ ที่ขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดนี้คึกคักและเห็นการแข่งขันที่รุนแรงในหมู่ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เช่น Netflix, iflix และ HOOQ

 

 

“แม้ว่าไทยจะเป็นหนึ่งในตลาดโฆษณารับทําเว็บขายของออนไลน์ที่เล็กที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสอีกมากให้ตลาดในกลุ่มนี้ได้โตต่อในระยะข้างหน้า เราคาดว่า ด้วยแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล อีกทั้งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และระบบการเชื่อมต่อของไทย จะยิ่งมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

อย่างไรก็ดี Facebook ยังคงเป็นสื่อออนไลน์ที่ผู้บริโภคชาวไทยนิยมใช้มากที่สุด ตามมาด้วย YouTube และ Line โดยรายงานฉบับนี้  ซึ่งระบุว่า 74% ของประชากรไทยทั้งหมด เป็นผู้ใช้งานประจำของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพวกเขาใช้เวลาโดยเฉลี่ยถึง 3 ชั่วโมง 11 นาทีในแต่ละวันในการท่องโลกสังคมออนไลน์

ในขณะที่วิดีโอเกมและอีสปอร์ต จะกลายเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของไทย โดยคาดว่า มูลค่าการใช้จ่ายจะเติบโตถึง 3.3 หมื่นล้านบาท ในปี 2566 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.7%

ทั้งนี้ เกมบนสื่อสังคมออนไลน์ และเกมที่เล่นสั้นๆ ง่ายๆ รูปแบบเกมไม่ซับซ้อน  ถือเป็นประเภทของเกมที่ครองส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุด โดยคาดจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.8% เนื่องจากการขยายตัวของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ฐานลูกค้าของผู้บริโภคเกมบนมือถือเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

 

4 ตัวแปรสำคัญในการปั้นกลยุทธ์สื่อและบันเทิงสู่ความสำเร็จ

  1. สื่อต้องหลากหลายไม่มีรูปแบบที่ตายตัว : ผู้ประกอบการจะพบว่า ความต้องการลูกค้าทำเว็บขายของ แต่ละราย ในแต่ละภูมิศาสตร์นั้นแตกต่างกัน ฉะนั้น ผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอตัวเลือกของสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย โดยอย่าลืมว่า ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ยกตัวอย่าง เช่น ผู้บริโภคบางรายอาจจะไม่ได้ชื่นชอบบริการที่ผู้ประกอบการนำเสนอให้เสมอไป ขณะที่รูปแบบการชำระเงินสำหรับบริการในตลาดที่พัฒนาน้อยกว่าย่อมแตกต่างจากตลาดที่พัฒนาแล้วและแข่งขันกันที่ราคาเป็นหลัก  กลุ่มธุรกิจสื่อและบันเทิงแต่ละประเภทนั้น มีการเติบโตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
  2. .จุดสัมผัสบริการของลูกค้า ขยายตัวมากขึ้น : ในขณะที่ประสบการณ์การบริโภคสื่อและอีคอมเมิร์ซมุ่งไปสู่ความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้น ความพึงพอใจของลูกค้า กลายเป็นเรื่องต้องทำอย่างทันท่วงที ด้วยเหตุนี้ ผู้สร้างคอนเทนต์และผู้ประกอบการสื่อและบันเทิง จึงได้คิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการดึงดูดผู้บริโภค โดยพยายามตีโจทย์ว่า จะทำความเข้าใจรูปแบบการบริโภคของลูกค้า
  3. นวัตกรรมทางเทคโนโลยีปูทางไปสู่ยุคของการใช้ระบบประมวลผลส่วนบุคคล : วันนี้หลายองค์รกำลังใช้ประโยชน์จากความสามารถของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อทำความเข้าใจรสนิยมและพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภค และให้สามารถนำเสนอเนื้อหาที่โดนใจมากที่สุดซึ่งต่อไปการผสมผสานกันระหว่าง AI และ 5Gจะยิ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงได้ เช่น วิดีโอเกม และความเป็นจริงเสมือน  ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ คาดการณ์ว่า ในอนาคตวิดีโอเกม จะเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจทั้งในด้านการเติบโตและขนาด ในขณะที่ VR จะเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมนี้
  4. ความเชื่อมั่นและกฎระเบียบยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ: เมื่อผู้บริโภคกลายเป็นศูนย์กลางของการสร้างประสบการณ์ในการบริโภคสื่อ ข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ฟัง ข่าวที่อ่าน หรือแม้กระทั่งสินค้าที่ซื้อล้วนมีความสำคัญ ซึ่งในโลกยุคใหม่นี้ การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาระบบนิเวศของการดำเนินธุรกิจสื่อและบันเทิงในส่วนขององค์กร ประเด็นนี้ยังเป็นเรื่องที่มากกว่าการต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ แต่เป็นเรื่องของการสร้างความไว้วางใจโดยการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงสร้างเชื่อมั่นในความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร และมีความอ่อนไหวต่อประเด็นความกังวลต่างๆ เช่น การเสพติดดิจิทัล

 

 

 

 

ที่มา : thumbsup.in.th